Ulthera ทำกี่ช็อตถึงเห็นผล
|ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อยก็ล้วนสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคนกันอยู่เสมอ ยิ่งเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น คงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าริ้วรอยตีนกา ร่องลึกตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าจะเด่นชัดขนาดไหน แม้จะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้าดีขึ้น แต่ก็อาจเห็นผลช้า ไม่ทันใจ
ทำให้ในปัจจุบันวงการเสริมความงามได้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาผิวเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังเห็นผลไวซึ่งเทคโนโลยีนั้นก็คือการทำ Ulthera นั่นเองรายละเอียดมีอะไรบ้างเรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า
การทำ Ulthera คืออะไร?
คือ เทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงในรูปแบบ High Intensity Focused Ultrasound ที่มี U.S. FDA ได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกาว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพช่วยในการฟื้นฟูปัญหาผิวหน้าที่เสื่อมโทรมได้อย่างเฉพาะเจาะจง
ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องก็คือจะทำการปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ขนาดเล็กจำนวนมากตรงเข้าสู่ใต้ชั้นผิวหนังในส่วนที่ลึก ( Selective delivery of acoustic energy ) เพื่อกระตุ้นให้ผิวชั้น SMAS (ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า) เกิดการหดตัว ส่งผลให้ผิวหนังยกกระชับมากขึ้น ริ้วรอยร่องลึกก็ดูตื้นขึ้น
อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ที่เป็นองค์ประกอบในโครงสร้างผิวหนังขึ้นมาใหม่เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวมีความอิ่มฟู เรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติมากขึ้นตามไปด้วย
จุดเด่นของ Ulthera
ในระหว่างทำการรักษาแพทย์และคนไข้จะมองเห็นภาพจากการอัลตร้าซาวด์ผ่านหน้าจอเครื่อง ทำให้แพทย์สามารถปรับระดับความแรงคลื่นให้เหมาะสมไปพร้อม ๆ กับทำการยกกระชับผิวหน้าของเราได้อย่างถูกต้องแม่นยำกว่าวิธีอื่น ๆ และมีความปลอดภัย โอกาสแพ้ก็มีน้อย ผลลัพธ์จึงเห็นได้ชัดทันทีหลังทำว่าผิวมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นไปจากเดิม
Ulthera เหมาะกับใคร?
- คนที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยประมาณ 30 ปีขึ้นไปที่ผิวหน้าเริ่มส่งสัญญาณ มีริ้วรอยมาปรากฏให้เห็น
- คนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยแล้วต้องการยกกระชับ
- คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในชั้นผิวหนัง
- คนที่ต้องการฟื้นฟูบำรุงผิวอย่างล้ำลึกแต่ไม่มีเวลา
- คนที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย หรือหางตาตก
- คนที่มีไขมันบริเวณแก้มไม่เยอะแต่อยากให้ยกกระชับ
- คนที่มีผิวหนังใต้คางหรือเหนียง แล้วต้องการเพิ่มกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
- คนที่มีเวลาพักฟื้นไม่นาน และไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า
- คนที่เคยผ่าตัดมาก่อนแล้วอยากให้ยกกระชับเพิ่มขึ้นก็สามารถทำได้
Ulthera ไม่เหมาะกับใคร?
- คนที่อายุมากกว่า 60 ปี
- ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร
- คนที่มีแผลติดเชื้อ หรือเป็นสิวอักเสบที่ใบหน้า
- คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นต้น
- คนที่เคยฝังอุปกรณ์โลหะหรืออิเล็กทรอนิกส์ไว้ภายในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก หรือรักษาหน้าด้วยเลเซอร์ ภายใน 1-3 เดือนที่ผ่านมา
ขั้นตอนการทำ Ulthera
- สิ่งแรกเลยก็คือต้องหาคลินิกที่มีความน่าเชื่อ ได้มาตรฐานการรับรอง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะประสบการณ์
ปรึกษาปัญหาผิว สอบถามข้อมูลให้คลายความสงสัย และแจ้งความต้องการให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับปัญหาผิวที่มี รวมถึงประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องตรงจุด - วันนัดก่อนทำการรักษาแพทย์จะทำความสะอาดใบหน้า ตามด้วยทายาชาทิ้งไว้สักพัก 30-45 นาที แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาด้วยเครื่อง Ulthera เพื่อยกกระชับผิว
- เวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย
- ในขณะทำจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้า โดยแพทย์จะทำเพียงข้างเดียวก่อน จากนั้นจะให้คนไข้ดูเพื่อเปรียบเทียบข้างที่ทำ และไม่ได้ทำให้เห็นถึงความแตกต่างกันที่เกิดขึ้น แล้วจึงทำอีกข้างต่อ
- หลังทำจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20-30%
- เมื่อเสร็จแล้วก็รับฟังคำแนะนำการดูแลตนเองหลังทำจากแพทย์ พร้อมรับยากลับไปรับประทานที่บ้าน ก็สามารถเดินทางกลับบ้านและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติเลย
สิ่งที่ควรปฏิบัตหลังทำ Ulthera
- ในช่วงแรกหลังทำผิวอาจมีความแห้งจากยาชาที่ทา ส่งผลให้ผิวแห้งเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะสามารถบำรุงผิวด้วยครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นได้ อีกทั้งยังสามารถแต่งหน้าและทาครีมกันแดดที่มี SPF 50ขึ้นไปได้ด้วยเช่นกัน
จะมีอาการบวมเล็กน้อย หากถึงบ้านให้ทำการประคบเย็นหรือทานยาแก้ปวดอย่าง ยาพาราเซตามอล ซึ่งอาการจะบรรเทาลงภายใน 2-3 วัน - หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด หรืองดการทำกิจกรรมที่ต้องเจอความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน ๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์เช่น การซาวน่า และ การอบไอน้ำ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการทาครีมในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง หรือ ครีมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวประมาณ 1 สัปดาห์
- งดเอามือไปสัมผัสใบหน้าแรง ๆ หรืองดทำกิจกรรมอย่างเช่น การสปาผิวหน้า และการทำเลเซอร์ใบหน้าเป็นต้น
- ขณะพักผ่อนแนะนำให้นอนหมอนสูง ไม่ควรนอนคว่ำ หรือ นอนตะแคง
- สิ่งสำคัญคือ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการทานยา และการนัดติดตามผลหลังทำ
ผลดี-ผลเสียการทำ Ulthera
ผลดี
- ได้ใบหน้าที่ยกกระชับมากขึ้น ริ้วรอยร่องแก้มที่ลึกก็ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลมาจากผิวชั้น SMAS เกิดการหดตัวนั่นเอง
- ใบหน้าอิ่มฟู รูขุมขนเล็กลง ผิวมีความเรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์ จากการที่คลื่นไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินมาเติมเต็มในส่วนที่ขาด
- ช่วยลดเหนียง เพิ่มกรอบหน้าและสันกรามให้ดูชัดมากขึ้น
- ช่วยให้เนื้อแก้มที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น
- พลังอัลตร้าซาวด์ที่ใช้ไม่รุกรานผิว และ ไม่ก่อให้เกิดการทำลายชั้นผิวหนังให้เสียหาย
- มีความปลอดภัย 100% เพราะไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- หากทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุก 1-2 ปี ก็จะได้ผิวที่อ่อนเยาว์สวนทางกับอายุเพิ่มมากขึ้น
- ไม่ต้องพักฟื้นนานทำเสร็จก็เดินทางกลับบ้านได้เลย
- คุ้มกว่าเพราะทำเพียงแค่ 1 ครั้ง/ปี เมื่อเทียบกับการทำ HIFU ที่ต้องทำประมาณ 3-4 ครั้ง/ปี
ผลเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ให้ผลคงอยู่ได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็คืนสภาพแต่ก็สามารถรักษาเพิ่มเติมได้
- บางคนอาจมีรอยแดงเกิดขึ้นได้ เพราะก่อนทำต้องมีการทายา แต่ก็รอยเหล่านี้ก็จะลดเลือนลงภายในไม่กี่ชั่วโมง
- บางคนมีอาการบวมแดงแต่ก็จะบรรเทาลงภายใน 1 สัปดาห์
- ในขณะทำ ใบหน้าของเราที่ได้รับพลังงานคลื่นนั้นจะให้ความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เหมือนมีของแหลมเล็ก ๆ ทิ่มหรือรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำ
- บริเวณใบหน้ามีเส้นเลือดอยู่เยอะ หากคนทำไม่มีประสบการณ์ก็อาจทำให้ใบหน้าเบี้ยวผิดรูปได้
กี่เดือนถึงจะเห็นผล
จริง ๆ หลังจากที่ทำ Ulthera เสร็จเราจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้าทันที และจะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้นภายใน 2-3 เดือน อีกทั้งจะคงประสิทธิภาพอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปีเลยทีเดียว
ต้องทำประมาณกี่ช็อต
หากทำ Ulthera ทั่วบริเวณใบหน้าควรจะทำประมาณ 400 ช็อตขึ้นไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้าได้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าการทำ Ulthera นั้นให้ผลดีต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากเราไม่ตรวจสอบคลินิกให้ดีเสียก่อนพลาดเจอคลินิกเถื่อน ก็อาจส่งผลเสียตามมาทีหลังได้ไม่ว่าจะเป็นเสียเวลา เสียเงิน และเกิดผลเสียกับใบหน้าของเราได้ ดังนั้น เราจึงควรจะหาข้อมูลและไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุดกับตัวเรา