ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ Ulthera
|เทคโนโลยีการกระชับผิวและปรับรูปหน้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็คือ Thermage (เทอร์มาจ) และ Ulthera (อัลเทอร่า) ซึ่งทั้งสองวิธีจะมีหลักการทำงานที่คล้ายกัน โดยThermage จะเป็นการใช้คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว ส่วน Ulthera จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลือกรับบริการ เรามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Thermage และ Ulthera ว่าทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับชั้นผิวหนัง
โครงสร้างผิวหนังสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชั้น ได้แก่
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) จะเป็นผิวหนังชั้นที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และการสูญเสียน้ำ
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือผิวหนังชั้นในเป็นที่อยู่ของต่อมน้ำเหลือง ประสาทรับความรู้สึก รูรากขนและผม เป็นชั้นที่มีความหนาและความยืดหยุ่นกว่าชั้นหนังกำพร้า ซึ่งจะมีคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) เป็นองค์ประกอบหลัก มีหน้าที่ช่วยรับแรงกระแทกจากภายนอก กักเก็บสารอาหาร และขับถ่ายของเสีย
- ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) จะมีเซลล์ไขมันเซลล์ไขมัน(Adipocytes & special collagen fibres) คอลลาเจน และหลอดเลือดที่มาหล่อเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน
- ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (Superficial Musculo Aponeurotic System หรือ SMAS) มีโครงสร้างเป็นเนื้อเยื่อพังผืดที่มีความหนาและความเหนียว ผิวหนังชั้นนี้จะใช้ในการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
องค์ประกอบที่พบในชั้นผิวหนัง
- คอลลาเจน (Collagen) จะมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งแต่ละเส้นประกอบไปด้วยสายเปปไทด์ ยังมีกระบวนการสร้างที่ต้องอาศัยเอนไซม์ แร่ธาตุ และสารชีวโมเลกุลหลายชนิด ถ้าผิวหนังของเรามีปริมาณคอลลาเจนมาก ผิวก็จะมีความเต่งตึง ยืดหยุ่น และเรียบเนียน แต่ถ้าหากคอลลาเจนเกิดการเสื่อมสภาพ จะทำให้ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย
- อิลาสติน (Elastin) คล้ายกับคอลลาเจน แต่สามารถยืดออกได้มากกว่า จึงทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น
- กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่ลักษณะคล้ายเจล หรือเรียกว่าสารอิ่มน้ำ จะช่วยจับน้ำและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่
มาทำความรู้จักกับเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วย Thermage และ Ulthera
Thermage คือ เทคโนโลยียกกระชับผิว ปรับรูปหน้า และช่วยลดริ้วรอย โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radio Frequency) ปล่อยพลังงานการกระตุ้นลงกว้างรอบ ๆ บริเวณผิวที่ทำ กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลงลึกถึง 3 ระดับ
Ulthera คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (High Intensity Focused Ultrasound) ปล่อยคลื่นออกมาเป็นจุดเล็ก ๆ ในผิวหนังชั้น SMAS (ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า)
เครื่องมือ Thermage และ Ulthera มีหลักการทำงานเหมือนหรือแตกต่าง
Thermage จะมีหลักการทำงานโดยการปล่อยคลื่น Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนังทั้ง 3 ระดับ คือ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และไขมันใต้ผิวหนัง ความลึกประมาณ 4.3 มิลลิเมตร เพื่อกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินให้ยึดเกาะและเกิดการสร้างขึ้นใหม่ ทำให้ผิวหนังแน่นขึ้น (tightening) ยังสามารถสลายไขมันได้อีกด้วย
Ulthera การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ส่งพลังความความร้อนเป็นจุดเล็ก ๆ ลงสู่ชั้นผิวลงลึกได้ถึงระดับ 4.5 มิลลิเมตร ก็คือส่วนของชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณใต้ชั้นผิวหนังเกิดการหดตัว ทำให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยนั้นยกกระชับขึ้น (lifting)
เราจะเหมาะกับการรักษาแบบไหน Thermage หรือ Ulthera
Thermage เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอย ต้องการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มคอลลาเจนให้แก่ผิวหนัง หรือผู้ที่การยกกระชับใบหน้าและลำคอ เช่น มีไขมันบริเวณแก้ม ใต้คาง
Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาของการหย่อนคล้อย ไม่ค่อยมีไขมัน ต้องการยกกระชับใบหน้าหรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว (V-Shape) การลดริ้วรอยและเพิ่มคอลลาเจนเป็นผลพลอยได้
ระยะเวลาในการรักษา
การรักษาทั้งแบบ Thermage และ Ulthera จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ต่อครั้ง (ระยะเวลาที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการรักษา)
ความรู้สึกในระหว่างทำ
Thermage ระหว่างทำจะมีความรู้สึกอุ่น ๆ เล็กน้อยบริเวณผิวที่ทำ เนื่องจากการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนัง อุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีระบบการสั่น เพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างทำ
Ulthera จะรู้สึกหน่วงหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณผิว เนื่องจากการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนัง อุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส และจะรู้สึกเสียวในบริเวณที่ใกล้กับกระดูก
ผลลัพธ์ที่ได้
Thermage จะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 20-30% หลังทำทันที ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นในเดือนที่ 2-3 และเห็นผลลัพธ์ของการยกกระชับอย่างเต็มที่ในเดือนที่ 6
Ulthera จะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีว่าบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์ของบริเวณที่หย่อนคล้อย เช่น ลำคอ เนินอก จะมีการฟื้นฟูสภาพผิวที่ดีขึ้น ภายใน 3-6 เดือน
ความคงทนยาวนาน
การรักษาด้วย Thermage และ Ulthera จะคงสภาพอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี (จึงแนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง)
จุดเด่นของ Thermage และ Ulthera
จุดเด่นของ Thermage
- จะเน้นการทำให้ผิวหนังของเราแน่นและกระชับขึ้น (Tightening) ยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดไขมันที่สะสมในบริเวณที่ทำได้อีกด้วย
- เทอร์มาจเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย จึงไม่ส่งผลข้างเคียงต่างในระยะยาว
- ใช้ระยะเวลาการรักษาแต่ละครั้งไม่นานมาก
- หลังการรักษาจะไม่มีบาดแผล จึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น การบำรุงผิวหรือแต่งหน้า
- การรักษาเพียงครั้งเดียวก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลย ไม่ต้องทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
จุดเด่นของ Ulthera
- เน้นการทำให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น (lifting) เนื่องจากมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยังฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น
- อัลเทอร่าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ทำลายชั้นผิวหนังของเรา
- เป็นการรักษาในชั้นผิวเดียวกันกับการผ่าตัดดึงหน้า ก็คือ ชั้น SMAS จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการทำศัลยกรรมหรือผ่าตัดที่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันทีหลังทำ
- การักษาด้วยวิธีนี้ ขณะทำจะสามารถมองเห็นเนื้อเยื่อในชั้นผิว โดยการถ่ายภาพด้วยอัลตร้าซาวด์
อะไรคือข้อจำกัดในการรักษา Thermage และ Ulthera
Thermage
- บริเวณที่มีข้อจำกัดในการรักษา คือบริเวณที่มีอุปกรณ์เทียมโลหะฝังอยู่ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องช่วยฟังแบบฝัง ฯลฯ
- หลังการรักษาอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น อาการบวม แดง ซึ่งอาการจะหายได้เอง
Ulthera
- บริเวณที่มีข้อจำกัด ได้แก่บริเวณที่ใกล้กับกระดูก
- อาการบวม ระบม แดง อาการดังกล่าวสามารถหายได้เองหลังทำประมาณ 1-2 สัปดาห์
- อาการของผิวแห้งในช่วงแรกหลังทำ กรณีนี้เกิดอาการจากใช้ยาชาทาลงบนบริเวณที่ต้องการรักษา
- บางรายอาจอาการผิวไหม้ (Burn) ได้ เนื่องจากการักษาด้วยอัลเทอร่าจะส่งผ่านพลังงานความร้อนสู่ผิวที่อุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์
ข้อควรปฏิบัติในการทำ Thermage กับ Ulthera
ก่อนทำ Thermage กับ Ulthera ควรดูแลผิวด้วยการบำรุงและทาครีมกันแดด
หลังทำ Thermage กับ Ulthera
- หากมีอาการบวมหรือแดงเกิดขึ้น สามารถดูแลผิวด้วยการประคบเย็น เพราะจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
- ถ้ามีอาการระบมหรือรู้สึกเจ็บบริเวณที่ทำ สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อน ควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอกทุกครั้ง เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี
- ถ้าเกิดอาการผิวแห้ง ควรทาครีมบำรุงที่มีส่วผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการทาครีมบำรุงในกลุ่มของไวท์เทนนิ่ง
ต้องเตรียมงบประมาณไปเท่าไรในการทำ Thermage และ Ulthera
Thermage ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000–100,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับบริเวณและจำนวนช็อตที่ใช้ของแต่ละคน
Ulthera มีราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป หากต้องการยกกระชับทั่วใบหน้าราคาก็จะสูงมากขึ้นไปอีก